เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 พ.ย.2568 พ.ต.ท.นักรบ ชอบทำงาน สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกกระแสไฟฟ้าชอร์ตบาดเจ็บ อยู่ในน้ำ ใต้ถุนบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ และทีมกู้ชีพโรงพยาบาลราชธานี ไปให้การช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว ใต้ถุนสูง มีน้ำท่วมขัง พบร่าง น.ส.ศรัณรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำใต้ถุนบ้าน เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านต้องช่วยกันใช้เชือกผูกตัว นำผู้บาดเจ็บเพื่อดึงขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง เพราะในน้ำยังคงมีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่ จากนั้นทำ CPR อย่างเร่งด่วน ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางปะอินทันที ระหว่างการช่วยเหลือพบว่าที่ตัวโครงสร้างของบ้านซึ่งเป็นเสาเหล็ก มีประกายไฟเสียงไฟฟ้าชอร์ตอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถลงไปช่วยเหลือผู้ดเจ็บอีกรายที่จมน้ำอยู่ได้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้อง ทำการตัดกระแสไฟฟ้าก่อนจึงสามารถนำร่างของผู้บาดเจ็บขึ้นมาจากน้ำได้ ทราบชื่อ นายศุภวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ลูกชายของผู้บาดเจ็บ ทำการปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล โดยที่ผู้บาดเจ็บทั้งรายไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบาง จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นโครงสร้างเหล็กทั้งหลัง ผนังทำด้วยแผ่นยิปซั่ม รอบบ้านต้นไม้ขึ้น มีสายไฟเมนหลักพาดผ่านใกล้ตัวบ้าน ต้นไม้ดันสายมาติดกับโครงเหล็กของบ้าน พบว่าสายไฟที่ติดกับตัวบ้านชำรุดพบรอยถลอกและรอยไหม้บนสายไฟ คาดว่าสายไฟอาจเสียดสีกับเสาโครงเหล็กของบ้าน จนเกิดไฟรั่วตัวบ้านและกระแสไฟลงไปในน้ำด้วย ก่อนเกิดเหตุสลด น.ส.ศรัณรัตน์ ผู้เป็นแม่ น่าจะถูกไฟฟ้าชอร์ตก่อนแล้วตกไปในน้ำ ลูกชาย อายุ 17 ปี พยายามจะเข้าไปช่วยถูกไฟฟ้าชอร์ตจมน้ำไปอีกคน เพื่อนบ้านซึ่งเห็นเหตุการณ์ เผยว่า ได้ยินเสียงลูกชายผู้เสียชีวิตตะโกนว่า “แม่จมน้ำ” หลังจากนั้นเสียงก็เงียบไปนานผิดปกติ เมื่อตนออกมาดูพบร่างผู้เป็นแม่ลอยนิ่งอยู่ จึงรีบไปบอกชาวบ้านให้ช่วย แต่ไม่มีใครกล้าลงเพราะกลัวถูกไฟดูด จึงต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนตัวลูกชายก็จมหายไปในน้ำด้วย ก่อนหน้านี้ชาวบ้านรวมทั้งผู้เสียชีวิตเคยแจ้งการไฟฟ้าให้มาตรวจสอบสายเมนที่พาดผ่านหลังคาบ้าน รวมทั้งกิ่งไม้ที่คลุมสาย เพราะกลัวอันตราย และเคยขอให้ย้ายสายไฟ แต่ไม่มีเจ้าน้าที่มาดำเนินการจนเกิดเหตุ ด้าน นางสุมาลี (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี แม่ของผู้ตาย เผยทั้งน้ำตาว่า ตอนเช้าออกไปทำงานตามปกติ ไม่รู้เลยว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูกและหลาน กระทั่งมีโทรศัพท์มาบอกว่าทั้งคู่ถูกไฟดูดจมน้ำ พอมาถึงพบสภาพบาดเจ็บสาหัส ก่อนทั้งคู่จะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ “ทำไมการไฟฟ้าไม่มาดูแล ย้ายสายไฟที่แจ้งไปตั้งนานแล้วใครจะรับผิดชอบชีวิตลูกหลาน โดยพนักงานสอบสวนได้เก็บภาพและหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญเพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติม และเตรียมประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาให้ข้อมูลเพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยร่างของทั้งสองแม่ลูกจะถูกส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดปทุมธานีต่อไป