คนร้ายขับขี่รถจักรายนต์ฝ่าเคอร์ฟิวกลางสายฝนตระเวนยกตู้เติมเงินมือถือคืนเดียว 3 ตู้รวด
วันที่ 27 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ในชุมชน ตำบลเจ้าเจ็ด และตำบลบ้านแถวอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคนร้ายตระเวนก่อเหตุยกตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ไปจำนวนหลายตู้
พบว่าที่หน้าร้านขายของ ริมถนนสายเจ้าเจ็ด-บ้านแถว หมู่3 ต.บ้านแถว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเอาไว้หน้าร้าน ถูกคนร้ายถอดน็อตจำนวน 4 ตัว แล้วยกเอาตู้เติมเงินไปเหลือเอาไว้เพียงน็อตที่ยึดติดกับพื้น
ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้า พบว่าช่วงเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 27 ส.ค. มีชายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีส้ม ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดงขับสวนเลนมา ชะลอหน้าร้าน แล้วมีชายวัยรุ่น2 คน ขับขี่รถจักรายนต์ มาจอดจุดที่ตั้งของตู้เติมเงินโทรศัพท์ ซึ่งกล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพได้ คาดว่าน่าจะเป็นรถจักรายนต์ของคนร้าย
จากนั้นไปตรวจสอบที่บริเวณถนนด้านข้าง โรงเรียน เซนต์จอห์น บัปติสต์ ต.บ้านแถว อ.เสนา ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ตั้งเอาไว้ถูกคนร้ายยกเอาไปทั้งตู เหลือเพียงฐานปูนที่ตั้งของตู้และน็อตที่ยึดตู้เติมเงิน
ไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าร้านค้า ริมถนนเจ้าเจ็ด-บ้านแถว ม.5 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา ซึ่งถูกคนร้ายยกเอาตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตั้งเอาไว้หน้าร้าน เหลือทิ้งเอาไว้เพียงแค่น็อตที่ยึดติดกับพื้นปูน
นางเพิ่มพูน ภินยาพาท อายุ 60 ปี ชาวบ้านใกล้กับที่เกิดเล่าให้ฟังว่า ช่วงกลางดึกขณะที่ฝนตกหนักได้ยินเสียงดังโครม แต่ไม่ได้ออกไปดูคิดว่าลมคงพัดอะไรล้ม จนมาช่วงเช้าพบว่าตู้เติมเงินหายไป ช่วงนี้คงต้องระวังทรัพย์สินของตนเองกันไว้ให้ดี ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้ายกเอาตู้เติมเงินมือถือไปทั้งตู้
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายตระเวนก่อเหตุ ยกตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ พบรถจักรายนต์2 คัน ขับขี่ประกบคู่กันช่วงที่มีฝนตกเวลาประมาณ 00.30 น. สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรถของคนร้าย เมื่อได้ตู้เติมเงินแล้ว นำตู้ไปงัดแล้วทิ้งตู้เติมเงินในจุดจุดหนึ่ง แล้วไปเอาตู้เติมเงินตู้อื่นๆต่อไป
