หนุ่มโรงงานวัย 36 ปี ขับรถเก๋งเสียหลักตกไปบ่อน้ำริมถนนสายเอเชียกลางดึก มาพบรถตอนเช้าเสียชีวิตคารถ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2565 พ.ต.ท.ธเนศพล แสงโชติ สว.(สอบสวน) สภ. บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุพบรถยนต์เก๋งตกลงไปในบ่อน้ำริมถนนสายเอเชีย ขาออก บริเวณหน้านิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ช่วงหลัก กิโลเมตรที่ 7 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
ภายในบ่อน้ำพบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าแจ๊ส สีขาวหมายเลขทะเบียน กท 263 พระนครศรีอยุธยา จมอยู่ในน้ำสภาพล้อชี้ฟ้า จมอยู่ในโคลน จึงใช้รถยกดึงรถขึ้นมาตรวจสอบ สภาพรถกระจกด้านหน้าด้านหลังแตก หลังคารถยุบ ท้ายรถยุบ ภายในรถพบศพนาย รุ่งโรจน์ พงษ์โสภณ อายุ 36 ปี ชาว ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สวมใส่ชุดพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง อยู่ที่นั่งคนขับคาดเข็มขับนิรภัย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ5-6 ชั่วโมง ตรวจสอบบนถนนพบร่อยรอยรถเบรก เสาปูนป้ายบอกทางหัก รอยไถลต้นหญ้าข้างทางเป็นทางยาวจนถึงบ่อน้ำ
สอถบถาม นายนพดล. พูลทอง อายุ 32 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ เล่าว่า ตนเองขับ ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุเห็นรอยไถลต้นหญ้าเป็นทางยาวจนถึงบ่อน้ำ มีชิ้นส่วนอะไหล่รถเก๋งตกอยู่จึงชะลอรถดูพบเห็นตัวรถเก๋งสีขาวโผล่ขึ้นมาจากน้ำจึงจอดดูพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ด้าน นายฉลองชัย คำศิริอายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบอกว่า ตนเองได้รับแจ้งจึงได้เดินทางมาตรวจสอบพบรถเก๋งจมอยู่ในน้ำลักษณะล้อชี้ฟ้าจึงได้ลงน้ำดำลงไปดูแต่ยังไม่พบคนขับเนื่องจาก หน้าตัวรถปักจมโคนอยู่จึงได้ประสานรถยกให้มา ช่วยดึงก็พบว่าคนขับเสียชีวิตแล้ว
นายเมธาสิทธิ์ วันจาอายุ34ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ กล่าวว่า ช่วงกลางคืนที่ผ่านได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเห็นรถเก๋งตกน้ำบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มาตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบเนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุมืดมาก จนไปพบอีกเหตุรถจจย.ตกข้างทาง จึงคิดว่าเป็นเหตุเดียวกัน
ทางด้านพนักงานสอบสวน สันนิษฐาน ในเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตขับรถเพื่อกลับบ้านบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลัก พลิกคว่ำจนรถตกลงไปในน้ำ ซึ่งตอลดข้างทางมีต้นหญ้าขึ้นรถ และถนนเป็นมืดจึงมองไม่เห็น จนช่วงเช้ามีคนขับรถยนต์บรรทุกเห็นว่ามีรถเก๋งตกน้ำ จึงมาตรวจสอบ ได้ทำการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุบันทึกภาพอย่างละเอียด ติดตามหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ มาทำการสอบสวน นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
