จับ 2 ผัวเมียขนยาบ้า 3.8 ล้าน เม็ดยึดทรัพย์ 4 ล้านบาท
วันที่ 21 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ. พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาภาค 1 นายนวัต บุญธรักษา นายอำเภอบ้านแพรก สํานักงาน ปปส. ภาค1
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายลําเลียงยาเสพติด ในพื้นที่ภาคกลาง ลงสู่ภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายย่อย สามารถยึดยาเสพติดได้จำนวนมากหลายครั้ง
ทำให้ทราบว่า นายอัตฤสิทธิ์ ดวงเกิด และ น.ส.สุภิญญา จันทร สองสามีภรรยา ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง เพื่อนำไปส่งมอบให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้หลายครั้ง
โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 21.00 น จากการสืบสวนทราบว่า นายอัตถสิทธิ์ หรือเอฟ น.ส.สุฏิญญา หรือ องุ่น จะมีการขน ยาเสพติดโดยใช้รถบรทุกสิบล้อ สีขาว มีการเตรียมบรรทุกกระสอบข้าวสารไว้บนรถ มีนายอัตถสิทธิ์ เป็นคนขับและรถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีบรอนด์เทามีน.ส.สุฎิญญา เป็นคนขับ เป็นรถนำทาง โดยจะขับมาตามถนนบายพาส ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบรถยนต์ทั้งสองคัน จากนั้น ได้เรียกตรวจสอบ ไม่พบยาเสพติดและพบว่ามีกุญแจรถยนต์อีกคันในตัวของผู้ต้องหา จึงทำการซักถามสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองรับว่ากำลังจะขับรถทั้งสองคันไปบรรทุกยาเสพติด ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรกจ.พระนครศรีอยุธยา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้น ยาบ้า จำนวน 1,900 มัด ประมาณ 3,800,000 เม็ด ชุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อ เชฟโลเลทเทเบลเซอร์ สีบรอนซ์เทา ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว
และได้ขยายผลไปตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดได้อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 4,000,000 บาท
โดยยาเสพติดดังกล่าวหากแพร่กระจายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 7,600,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลถึงผู้อยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดและทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการทำความผิดต่อไป
ด้าน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทุกนาย ที่ได้ประสานความร่วมมือกันและสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญรายนี้ พร้อมได้ของกลางจำนวนมาก มีมูลค่ารวมกว่า 7.6 ล้านบาท โดยได้ขยายผลไปยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
เป็นการการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติด อย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ ต้นทาง-กลางทาง -ปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ให้เร่งรัดในการปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ค้าทุกราย
พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา สั่งเข้มทุกมิติในการป้องกันและติดตามขบวนการยาเสพติด โดยประสานความร่วมมือ จากสืบสวนภาค1 ป.ป.ส.ภาค1 ฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันสืบสวนจับกุม ยึดทรัพย์ ทุกราย เพื่อให้ยาเสพหมดไปจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามนโยบาย “ขบวนการยาเสพติดห้ามผ่าน และพักก็ไม่ได้ “ในพื้นที่อยุธยา
