สาว 27 ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ซื้อบริการ อ้างไม่เสร็จกิจขอเงินคืน ซ้ำถูกข่มขู่รีดเงิน

สาว 27 ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ซื้อบริการ อ้างไม่เสร็จกิจขอเงินคืน ซ้ำถูกข่มขู่รีดเงิน

 

วันที่ 29 ส.ค.67 ที่สภ.พระนครศรีอยุธยา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พา น.ส.เอ อายุ 27 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา แจ้งความดำเนินคดี กับชาย 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ ซื้อบริการแล้วไม่จ่ายเงิน แถมยังถูกข่มขู่รีดทรัพย์

นายเอกภพ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากน้องผู้เสียหาย ว่าเมื่อวันที่ 26-27 ส.ค. ได้รับการติดต่อจากชายคนหนึ่งให้มาเอ็นเตอร์เทน และไปร่วมหลับนอนด้วยกัน นัดหมายเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ฝ่ายชายจ่ายเงินให้น้องผู้หญิง 1,500 บาท จากนั้นมีเพศสัมพันธ์กันจนเสร็จ ฝ่ายชายอ้างตัวเป็นตำรวจและขอเงินคืน น้องผู้หญิงรู้สึกแปลกใจทำไมถึงขอเงินคืน เพราะมีเพศสัมพันธ์กันแล้วตามที่ตกลงราคากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าอวัยวะเพศไม่แข็งตัวและไม่เสร็จ น้องผู้หญิงไม่ยอมคืนเงิน ฝ่ายชายจึงอ้างว่า จะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาค้าประเวณี

นายเอกภพ กล่าวว่า จากนั้นชายคนดังกล่าวโทรหาเพื่อนที่อยู่ห้องข้าง ซึ่งพาหญิงสาวอีกคนมาเหมือนกัน จากนั้นพาตัวน้องผู้หญิงไปที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีชายอีก 3 คนอยู่ในห้อง ด้วยความกลัวจึงยอมคืนเงิน 1,500 บาท แต่ชายที่อ้างเป็นตำรวจไม่ยอมบอกว่าจะดำเนินคดี ถ้าไม่ให้ดำเนินคดี ขอเงิน 20,000 บาท น้องผู้หญิงจึงบอกไปว่าไม่มีเงินมากถึง 20,000 บาท ที่มาทำงานแบบนี้เพราะต้องหาเงินไปเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัว ครอบครัวก็ไม่รู้เรื่อง พร้อมบอกว่าให้ส่งดำเนินคดีเลย เพราะข้อหาค้าประเวณีเป็นโทษปรับ ชายคนดังกล่าวจึงให้โทรตามญาติมาและข่มขู่ น้องผู้หญิงเกิดความกลัว เพราะไม่อยากให้ญาติรู้ว่าทำงานแบบนี้ จึงต่อรองกันจาก 20,000 บาทเหลือ 5,000 บาท จ่ายเป็นเงินสด 4,000 บา และโอนเงินเข้าบัญชีอีก 1,000 บาท

นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจ่ายเงินยังมีการข่มขู่น้องผู้หญิงว่า ต้องมีการจ่ายเป็นรายเดือนด้วย ยังมีความพยายามจะเอาตัวน้องผู้หญิงไปให้ชายคนอื่นหลับนอนด้วย แต่ไม่ได้ไป หลังจากนั้นข่มขู่หลายครั้ง จนน้องผู้หญิงมีความกลัวและมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด จึงประสานงานกับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ให้รีบพาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี เพื่อสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด

ด้าน พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายและคุ้มครองพยาน จากการฟังคำบอกเล่าของผู้เสียหาย สิ่งที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเป็น 2 ส่วนแรก ต้องดำเนินคดีในเรื่องของคดีค้าประเวณี ซึ่งเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับการป้องกันและปราบรามการค้ามนุษย์ ต้องมี เจ้าหน้าที่พม.พระนครศรีอยุธยามา ร่วมในการสอบสวนด้วย และในส่วนที่ 2 จะต้องสอบสวนสืบสวน กลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ต้องสืบทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจจะเป็นการกระทำความผิดส่วนตัวหรือใช้อำนาจหน้าที่ในการกระทำความผิด จะมีข้อหาที่แตกต่างกันตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จากคำบอกเล่าเรื่องสถานที่พาน้องผู้หญิงไป จะมีหลักฐานปรากฏ รวมถึงเรื่องของการจ่ายเงินที่มีการโอนเงิน การสืบสวนจะเริ่มต้นทันทีหลังจากนี้ขอยืนในเรื่องของการให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย

จากนั้นได้มีการพา น.ส.เอ ผู้เสียหาย ไปชี้จุดที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา นำชี้จุดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เจ้าหน้าที่มีการเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมไปด้วย

จากนั้น น.ส.เอ ผู้เสียหาย พาไปชี้จุดที่ถูกควบคุมตัวมาที่อาคารหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อยู่ด้านหลังตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำพาชี้จุดที่มีการนั่งพูดคุยเจรจาต่อรองเรียกรับเงิน

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ