ชาวนาอยุธยายืนหนังสือผู้ว่า ส.ส.อยุธยา เรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ เยี่ยวยาชาวนาพื้นที่รับน้ำ ยกเลิกประกาศห้ามเผานา

ชาวนาอยุธยายืนหนังสือผู้ว่า ส.ส.อยุธยา เรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ เยี่ยวยาชาวนาพื้นที่รับน้ำ ยกเลิกประกาศห้ามเผานา

วันที่ 28 มกราคม 2568 ที่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มชาวนา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 200 คน โดยมี นาย ฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย เป็นตัวแทนชาวนา เพื่อยื่นหนังสือผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัด ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ไปยังรัฐบาลให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ออกมาตรการช่วยเหลือชาวนา และให้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยายกเลิกมาตรการห้ามเผาฟางในพื้นที่ทำการเกษตรของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

กลุ่มชาวนามีการติดป้าย ข้อความ”ชาวนาเดือดร้อน ราคาข้าวตกต่ำ ขอวิงวอนรัฐบาลช่วยราคาปุ๋ยแพง ยาแพง น้ำมันแพง ราคาถูก”ติดไว้ที่รั้วของศูนย์ราชการ พร้อมกับการเปิดเวทีปราศรัย ด้วยเครื่องเสียงที่ขนขึ้นรถยนต์กระบะมา กลุ่มชาวนาสับเปลี่ยนกันพูดถึงปัญหาของราคาข้าวที่ตกต่ำ ความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติน้ำไม่มีทำนา น้ำท่วม ต้นทุนการผลิตราคาพันธ์ข้าว น้ำมันแพง ปุ๋ยแพง ขอให้รัฐบาลช่วยแก้ไข รวมถึงเรื่องการโดยนบาปให้ชาวนา ว่าเป็นต้นเหตุของ ปัญหาฝุ่นPM 25

นาย ฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย เป็นตัวแทนชาวนา กล่าวว่า ชาวนา ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาด้านราคาข้าวตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต นำไปสู่ปัญหาหนีสินที่จะสมสม ปัญหาจะขยายวงกว้างออกไป จึงเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาของชาวนาโดยด่วน มีข้อเรียกร้องสำคัญ 3 เรื่อง


1. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนา โดยกำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และกำหนดปริมาณรับประกันราคาไม่เกิน 50 ตันต่อรายหรือดำเนินโครงการรับจำนำ ข้าวในราคารับจำนำข้าว 11,000 บาทต่อตัน สำหรับเกษตรกรรายละ 50 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของชาวนาและยังส่งผลให้เกษตรกรผู้ทำนามีรายได้ที่มั่นคงและสามารถดำรงชีพได้อย่างยั่งยืนโดยไม่กระทบต่อกลไกทางการตลาดของการส่งออกข้าวของไทย


2. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่รับน้ำ โดยจัดสรรเงินชดเชยจำนวน 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนในแต่ละปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นพื้นที่รับ น้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ต้องมีต้นทุนการยังชีพที่สูงขึ้นเมื่อต้องใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับภาวะน้ำ ท่วมขังยาวนานถึง 2 – 3 เดือนในทุกๆปี
3. ขอเรียกร้องให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยายกเลิกมาตรการห้ามเผาฟางในพื้นที่ทำการเกษตรของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากชาวนาที่ อยู่ในพื้นที่รับน้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่มีทางเลือกอื่นใดในการกำจัดฟางข้าวนอกจากการเผาทำลาย ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกร สามารถจัดการพื้นที่ทำนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเพาะปลูกข้าว 2 รอบการผลิตได้ทันต่อภาวะน้ำหลากในเดือนกันยายนของทุกปี


ข้อเรียกร้องทั้งหมดฝากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ผ่านไปยังรัฐบาล ให้ช่วยชาวนาอย่างเร่งด่วน ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงจะรวมตัวกันเดินทางไปเรียกร้องให้รัฐบาล นายฐิติวัฒน์ กล่าว ย้ำ
ต่อมา นายเกียรติปราโมทย์ ฉายศรี รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายประดิษฐ์ สังขจาย ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 5 พิมพฤดา ตันจรารักษ์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 3 มารับหนังสือข้อเรียกร้องของชาวนา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พูดคุยกับกลุ่มชาวนา เรื่องของเรียกร้องชาวนาทั้งหมดทางจังหวัดจะปรึกษากับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที เพื่อหาทางแก้ไข ในส่วนที่จังหวัดสามารถทำได้
นายประดิษฐ์ สังขจาย ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 5 กล่าวว่า ตนเองมารับฟังรับทราบปัญหาของชาวนา พร้อมกับมารับหนังสือ เพื่อนำส่งไปยังรัฐบาล และนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของชาวนา ปรึกษาหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรไปยังหน่วยงานราชการ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกรรมาธิการ ต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวนา

ภายหลังการยืนหนังสือ ได้มีการเชิญตัวแทนชาวนา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขึ้นไประชุมพุดคุยรับฟังปัญหา ที่ห้องประชุมของศูนย์ราชการ จากนั้นกลุ่มชาวนาได้แยกย้ายกันเดินทางกลับไปรอรับฟังผลข้อเรียกร้องอีก7 วัน

 

 

 

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ