เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ลาสิกขา อ้างอ่อนต่อโลก ยอมรับผิด โอนเงิน 12.8 ล้านบาท จากบัญชีส่วนตัว และโอนจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ให้สีกากอล์ฟไปทำธุรกิจส่วนตัว เข้าข่ายความผิด ม.157

เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ลาสิกขา อ้างอ่อนต่อโลก ยอมรับผิด โอนเงิน 12.8 ล้านบาท จากบัญชีส่วนตัว และโอนจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ให้สีกากอล์ฟไปทำธุรกิจส่วนตัว เข้าข่ายความผิด ม.157

 

จากกรณี พระเทพพัชราภรณ์ ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หลังตกเป็นข่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ สีกากอล์ฟ เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 14 ก.ค.68 ที่วัดชูจิตธรรมาราม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่กุฏิพระเทพพัชราภรณ์ แต่ไม่มีใครอยู่ พบประตูถูกล็อกไว้ทั้งสองฝั่ง ส่วนพระภิกษุสงฆ์สามเณร เข้าศึกษาเล่าเรียนที่อาคารเรียนตามปกติ และมาฉันท์เพล ที่หอฉันท์

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่เพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดพร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ ในฐานะพยานนานเกือบ 3 ชั่วโมง

ภายหลังการสอบปากคำ พันตำรวจโทสิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่าขณะนี้อดีตเจ้าอาวาสลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว เต็มใจจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินเบื้องต้นกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) อยุ่ระหว่างตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นคือวัดตรีทศเทพมา และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดชูจิตฯ เป็นเส้นทางการเงินที่ตรวจพบมากที่สุดจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ที่ได้มาจจากการทำกิจนิมนต์และจากการสอนหนังสือ เก็บสะสมเป็นเงินส่วนตัว ก่อนโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ยังไม่รวมอีก 3.8 แสนบาท ที่เป็นเงินจากบัญชีวัดโอนไปให้สีกากอล์ฟ มีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟถึง 10 ล้านบาท ซึ่งจากการกระทำของอดีตเจ้าอาวาสฯ เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดมาตรา 157

ส่วนสีกากอล์ฟเริ่มเข้าหาอดีตเจ้าอาวาสฯ โดยเดินทางมาพบด้วยตนเองที่วัดโดยอ้างตัวเป็นไฮโซและแอบอ้างพระผู้ใหญ่ ทำให้อดีตเจ้าอาวาสฯ เชื่อใจและหลงเชื่อโดยยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” และ “เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่” ส่วนเงินที่สีกากอล์ฟยืมจากอดีตเจ้าอาวาสฯ อ้างว่าขอยืมไปทำธุรกิจเซรามิกโดยไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ได้ทวงถามเรื่อยมาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง จนมีข่าวอดีตเจ้าคุณอาชว์ วัดตรีทศเทพ ตกเป็นข่าว จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก

ส่วนการทำธุรกรรมจากบัญชีวัด จากการตรวจสอบพบว่าวัดนี้ไม่มีไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัด ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนเช่นเดียวกับวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร

ส่วนความสัมพันธ์เชิงชู้สาว อดีตเจ้าอาวาสฯ และสีกากอล์ฟยืนยันตรงกันว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และไม่มีพยานหลักฐานที่เป็นรูปภาพและคลิปวิดีโอในลักษณะถูกแบล็กเมล์ ส่วนเรื่องเงินที่ยืมจากอดีตเจ้าอาวาสฯ กว่า 10 ล้านบาท สีกากอล์ฟไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจออกหมายจับอดีตเจ้าอาวาสฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทุกอย่างจะต้องนำไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนโดยเฉพาะเส้นทางการเงินที๋โอนไปให้สีกากอล์ฟ หลังจากนี้พนักงานสอบสวนอาจพิจารณาเรียกตัวอดีตเจ้าอาวาสฯ และสีกากอล์ฟมาให้ปากคำเพิ่มเติม

ด้าน พันตำรวจเอกวนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผู้กำกับการ กองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ยืนยันว่ากรณีนี้มีความผิดชัดเจน เนื่องจากพบว่ามีเงินจากบัญชีวัดโอนให้สีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท หลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวโอนจากบัญชีส่วนตัวไปบัญชีวัดและโอนต่อไปบัญชีสีกากอล์ฟหรือไม่ หรือโอนจากบัญชีวัดโดยตรง ซึ่งหากเป็นลักษณะดังกล่าวถือว่ามีความผิดชัดเจน ส่วนจะทยอนโอนหรือโอนครั้งเดียวหลังจากนี้จะไปตรวจสอบเพิ่มเติมเพราะถือเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ

และในระหว่างเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้านหน้า เจ้าหน้าที่ ปปป. ควบคุมตัวอดีตเจ้าอาวาสฯ ออกไปด้านหลังศาลาหอฉัน โดยสวมชุดสีขาวเดินขึ้นรถออกไปพร้อมเจ้าหน้าที่

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ