สภากาชาดไทยเปิดอบรมแอป “พ้นภัย” ปักหมุดกลุ่มเปราะบางรับมือภัยพิบัติ ยกระดับการช่วยเหลือแบบเฉพาะราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ที่ชั้น 2 The Hall ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา พลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เป็นประธานเปิดการอบรมการใช้งานแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” ในโครงการ “ชุดธารน้ำใจสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ประสบภัยพิบัติ”
ณ ห้องประชุม The Hall ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1,000 คน เข้าร่วมอบรม
การอบรมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง โดยใช้ระบบแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” เพื่อระบุตำแหน่งกลุ่มเปราะบางผ่าน GPS และบันทึกข้อมูลความจำเป็นเฉพาะราย ตั้งแต่ปี 2563 สภากาชาดไทยได้จัดส่ง “ชุดธารน้ำใจ” ไปยังพื้นที่ประสบภัยกว่า 2.3 ล้านชุด โดยร่วมกับบริษัท ซีพี แอ๊กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งสามารถจัดส่งได้ภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 99.99%
พิธีเปิดได้รับเกียรติจากนายวัชระ กระแสร์ฉัตร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายเดชาธร เชาว์เลขา ปลัดจังหวัด, นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัด, นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ., นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รอง ผอ.สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ, นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา และ ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมในงาน
โครงการดังกล่าวถือเป็นความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาคีรวมกว่า 19 หน่วยงาน โดยมีการดำเนินงานนำร่องใน 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย อุบลราชธานี และสงขลา
ผู้ประสบภัยกลุ่มเปราะบางที่ได้รับการปักหมุดข้อมูลในระบบไม่น้อยกว่า 1 เดือน สามารถเลือกรับสิ่งของจำเป็นผ่านแอป “พ้นภัย” ได้ในวงเงินไม่เกิน 1,500 บาทต่อราย โดยมี อสม. เป็นผู้ประสานและนำส่งของถึงบ้าน
นอกจากนี้ โครงการยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคล 6 รอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี อสม. ทั่วประเทศร่วมกันปักหมุดกลุ่มเปราะบางแล้วกว่า 560,000 คน
ทั้งนี้ ข้อมูลของผู้เปราะบางจะถูกนำไปใช้ประกอบแผนเผชิญเหตุระดับพื้นที่ในทุกจังหวัด ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อการช่วยเหลือที่แม่นยำ ทันท่วงที และตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง