ขาโจ๋อยุธยาเหิมเกริม ยกพวกใช้อาวุธปืนบุกยิงคู่อริกลางหมู่บ้าน เจ็บสาหัส
วันที่ 29 กันยายน 2568 พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบ ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านจัดสรร ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ตรวจสอบหาวิถีกระสุน หลังจากเมื่อเวลา 23.55 น. วันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุวัยรุ่นยกพวกพกอาวุธปืน 2 กระบอก บุกยิงคนในบ้าน ที่กำลังจัดงานวันเกิด ได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยมีพลเมืองดีสามารถบันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ จากคลิปเผยให้เห็นกลุ่มวัยรุ่นอายุราว 20–30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน 4-5 คน ขับเข้ามาในซอย ก่อนมีการท้าทายกับกลุ่มผู้บาดเจ็บ จากนั้นผู้ก่อเหตุ 2 คนถือปืนคนละกระบอก ใช้ท่าทางข่มขู่พร้อมยิงใส่กลุ่มคู่กรณี ขณะชุลมุนมีการขว้างขวดเหล้าเบียร์โต้ตอบ
ผู้บาดเจ็บคือ นายบุญยกร ผุดผ่อง (เซนต์) อายุ 27 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า พยายามขว้างขวดใส่กลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนถูกยิง 1 นัดล้มลงและพยายามวิ่งหนีเข้าบ้าน แต่ยังถูกตามยิงซ้ำอีก 2 นัด เพื่อน ๆ ตะโกนว่า “เซนต์ถูกยิง” ก่อนพลเมืองดีรีบนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ด้าน น.ส.บี แฟนสาวผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุเป็นวันเกิดของตนเอง จัดเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ ที่บ้าน ขณะใกล้จะเป่าเค้ก ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้าน กวักมือท้าทายแฟนของตนเอง แฟนหนุ่มจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ตามออกไป หน้าหมู่บ้าน พบวัยรุ่นราว 13 คน 7 คัน จอดอยู่ แฟนยิงพากันขับรถเข้ามาในบ้าน ไม่นาน
กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ขับรถจักรยานยนต์ตาม พยายามจะชกต่อยและใช้ปืน 2 กระบอก จ่อยิงแฟนตนเองจนได้รับบาดเจ็บ ขณะนั้นเธอต้องรีบ อุ้มลูกหนีเข้าไปในบ้าน จากนั้น รีบพาแฟนตนเองส่งโรงพยาล แพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ตรวจพบว่า ผู้บาดเจ็บถูกยิงต้นขา 2 นัด และที่หน้าท้องอีก 3 นัด กระสุนฝังใน ขณะนี้อยู่ระหว่างการผ่าตัด
จากการสอบสวนทราบว่า 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุเคยเป็นเพื่อนสนิทกับผู้บาดเจ็บ แต่มีปัญหากันมาก่อน เนื่องจากผู้บาดเจ็บทำงานเป็นการ์ดในสถานบันเทิงกลางเมืองอยุธยา แต่กลุ่มวัยรุ่นดัง ผู้ก่อเคยไปมีปัญหาในสถานบันเทิง ผู้บาดเจ็บต้องทำหน้าที่การ์ด จนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ผูกใจเจ็บ เกิดความไม่พอใจสะสม ได้จังหวะจึงเข้ามาก่อเหตุในหมู่บ้าน
ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด และนำคลิปจากพลเมืองดีมาเปรียบเทียบตัวบุคคล เพื่อติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน
