จากกรณีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก บริเวณสี่แยกวัดกษัตราธิราช ต.บ้านป้อม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้รถจยย.มากกว่า 40 คัน มีการใช้ระเบิดปิงปอง ขว้างปาระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน
ล่าสุด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 8 ต.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตาม คุมตัวเยาวน ได้ทั้งหมด 45 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13–18 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 12 คัน
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายฟลุ๊ค (นามสมมติ) อายุ 16 ปี หนึ่งในเยาวชนที่ร่วมก่อเหตุ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและเพื่อนๆ ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากวัดแม่นางปลื้ม ขี่รถจักรยานยนต์หลายคันมุ่งหน้าไปอำเภอเสนา แต่เมื่อมาถึงบริเวณสะพานวัดกษัตราธิราช (ฝั่งวัดลอดช่อง) ได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่าย ขี่รถออกมาจากปากทาง จึงมีการใช้อาวุธปืนและระเบิดปิงปองขว้างใส่ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามแตกฮือหลบหนี แล้วพวกตนก็ขับรถกลับบ้าน
ต่อมามีการพูดคุยในกลุ่มแชทไลน์ จึงทราบว่ากลุ่มที่ปะทะกันนั้น คือกลุ่มวัยรุ่นจากชุมชนสำเภาล่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่รู้จักกันมาก่อน แต่วันเกิดเหตุทุกคนใส่หมวกกันน็อกจึงจำกันไม่ได้
ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ. พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาให้เร็วที่สุด เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเหตุอุกอาจที่ประชาชนให้ความสนใจ เพราะเกิดความรุนแรงบนท้องถนน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่หาข่าว ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุมีประมาณ 45-50 คน เป็นการปะทะกันระหว่าง 2 กลุ่มใหญ่ โดยสามารถติดตามตัวเยาวชนได้เกือบทั้งหมด และเชิญผู้ปกครองมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนร่วมกัน
จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ทั้งสองกลุ่มมีการท้าทายกันมาก่อนในเฟซบุ๊ก และเมื่อเจอกันจึงเกิดเหตุทะเลาะวิวาท มีการใช้อาวุธปืนและ ระเบิดปิงปองปาใส่กัน ส่วนที่มีการอ้างว่ารู้จักกันแต่จำไม่ได้เพราะใส่หมวกกันน็อก ตำรวจจะตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ต่อไป
เบื้องต้น มีการตั้งข้อหากับหนึ่งในเยาวชนอายุ 16 ปี ในข้อหาพยายามฆ่า และจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่า มีใครร่วมใช้อาวุธปืนบ้างหรือไม่ ข้อหาอื่นที่เตรียมตั้งรวมถึง มีและใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะ, ก่อเหตุวุ่นวาย, ขับขี่รถประมาทหวาดเสียว และกระทำการให้เกิดอันตรายต่อสาธารณะ
ในกรณีที่มีการตรวจพบอาวุธปืนหรือวัตถุผิดกฎหมายเพิ่มเติม จะพิจารณาตั้งข้อหาตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ส่วนผู้ปกครองของเยาวชนที่เกี่ยวข้อง อาจถูกดำเนินคดีในข้อหา ปล่อยปละละเลยดูแลบุตรหลาน ด้วย
ฝากเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ไม่ควรปล่อยให้ขี่รถจักรยานยนต์ออกนอกบ้าน หรือรวมกลุ่มก่อเหตุ หากละเลย ผู้ปกครองอาจต้องรับโทษตามกฎหมายเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายง…
เมื่อเวลา 03.00…