เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา แกะรอยจากกล้องวงจรปิด รวบ 2 โจรแสบตระเวนขโมยตู้เติมเงินกลางดึก ใช้วิธีหยอดเหรียญฟังเสียง หากแน่นแปลว่ามีเงิน ก่อนลงมือยกตู้ทั้งตู้หลบหนี พบหนึ่งในคนร้ายเพิ่งพ้นโทษจากคดีเดียวกันได้เพียง 2 เดือน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568 กล้องวงจรปิดบริเวณหน้า วัดมารวิชัย หมู่ 9 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา บันทึกภาพคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าตู้เติมเงิน จากนั้นทำทีหยอดเหรียญลงตู้ ก่อนช่วยกันยกตู้ทั้งตู้ขึ้นรถหลบหนีไปในความมืดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ต่อมา เจ้าของตู้เติมเงิน และผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สภ.เสนา จงพระนครศรีอยุธยา ว่าถูกคนร้ายขโมยตู้เติมเงินพร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งไป หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.โกมล กลิ่นประชุม ผกก.สภ.เสนา สั่งการให้ พ.ต.ท.ณฐกร หวังสุวรรณ สว.สส.สภ.เสนา ร.ต.อ.อภิสิทธิ์ ชำนิถิ่นเถื่อน ร.ต.อ.วริศ จันทโชติ ร.ต.ต.ภฤศ ไวยนาค รองสว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย ได้สอบสวนพยานและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายคะนอง หรือ ดอน รัศมีพันธ์ อายุ 36 ปี ชาวตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายคมสัน หรือ กรุง สุขแจ่ม อายุ 42 ปี ชาวตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์
รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ ติดตามไป เข้าตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 6 ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา และสามารถจับกุมคนร้ายทั้งสองได้ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า MSX สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 1056 ปราจีนบุรี และเหรียญ-ธนบัตรจำนวนหนึ่ง
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายในภาพวงจรปิดจริง โดยใช้วิธีตระเวนหาตู้เติมเงินในพื้นที่อำเภอเสนาในช่วงกลางดึก จากนั้นจะ ใช้วิธีการหยอดเหรียญเพื่อฟังเสียงในตู้ หากเสียงแน่นแสดงว่ามีเงินอยู่ภายใน จำนวนมาก ก็จะใช้เครื่องมือขันน็อตที่ยึดตู้กับพื้นแล้วช่วยกันยกตู้ทั้งตู้ไปทั้งตู้ ไปงัดจุดเอาเงินในตู้ เมื่อได้เงินแล้วจะนำตู้ไป โยนทิ้งในคลองหมู่ 10 ตำบลบางนมโค เพื่ออำพรางหลักฐาน ก่อนนำเงินไปแบ่งกันใช้จ่าย
ตรวจสอบประวัติพบว่า นายคะนอง เคยถูกจับในคดีขโมยตู้เติมเงินและเพิ่งพ้นโทษเมื่อสองเดือนก่อน ขณะที่ นายคมสัน มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย เคยต้องคดีมาแล้วหลายครั้ง ทั้งคู่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งจนไม่รอดเงื้อมมือกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือพาทรัพย์นั้นไปให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
ผู้สื่อข่าวรายง…
เมื่อเวลา 03.00…