พายุพัดกระหน่ำอยุธยา ต้นจามจุรีอายุกว่า 50 ปีโค่นทับโรงจอดรถโรงพักวังน้อย รถเสียหายหลายคัน เด็กรอพ่อในรถรอดหวุดหวิด

พายุพัดกระหน่ำอยุธยา ต้นจามจุรีอายุกว่า 50 ปีโค่นทับโรงจอดรถโรงพักวังน้อย รถเสียหายหลายคัน เด็กรอพ่อในรถรอดหวุดหวิด

เมื่อ 15.40น. วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดลมพายุฝน พัดกระหน่ำหลายพื้นที่ โดยพบว่า ที่โรงจอดรถ ตรงข้าม สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อานุกว่า 50 ปี ถูดพายุพัดหักโค่นล้มทับโรงจอดมีรถยนต์เสียหายจำนวน 12 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ของข้าราชการตำรวจ มีรถยนต์ของกลางคดียาบ้า 2 ล้านเม็ด 1คัน

เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เร่งใช้อุปกรณ์เลื่อยยนต์ ตัดกิ่งก้านต้นไม้ออก พร้อมกับใช้รถเครน ยกพยุงหลังตัวโครงหลังคาโรงจอดรถขึ้น เพื่อนนำรถยนต์ออก และสำรวจความเสียหาย

นางสาว ภาวินี นิลสาริกา อายุ 56 ปี กล่าวว่า ที่แรกตนเองจอดรถยนต์เก๋งไว้อีกฝั่ง แล้วย้ายเข้ามาจอด ฝั่งที่ถูกต้นไม้ล้มทับโรงจอดรถ ก่อนเกิดเหตุมีลมและฝนตกแรงมากเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังสนั่นแล้วต้นไม้ล้มลงเสียงดังสนั่น ต้นจามจุรีต้นนี้อายุกว่า 50 ปี

ด้าน นายภัทรธรรม อาร้อน อายุ 31 ปี ตัวแทนบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งจอดรถไว้ในจุดเกิดเหตุ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุอากาศยังมีแดดแรง จึงให้ลูกสาววัย 8 ขวบรออยู่ในรถ ระหว่างเข้าไปทำเรื่องเคลมประกันให้ลูกค้า แต่ไม่นานฝนก็ตกหนักและลมแรง จากนั้นได้ยินเสียงต้นไม้หักล้มทับหลังคาโรงจอด ทุกคนต่างวิ่งหนีออกมาด้วยความตกใจ

“ตอนนั้นได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนว่ามีเด็กอยู่ในรถ เพราะลูกสาวร้องเสียงดังมาก ผมรีบวิ่งไปอุ้มลูกออกจากรถทันที เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่มักจอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าต้นไม้จะหักโค่นลงมาตอนไหน” นายภัทรธรรมกล่าว

ชลธิชา ศิลาเจริญธนกิจ กำนันตำบลลำตาเสา รับแจ้งจากประชาชนว่าเกิดลมพายุพัดต้นไม้ล้มทับรถยนต์ จึงมาตรวจสอบพร้อมกับประสานทางเทศบาลเมืองลำตาเสา มาช่วยตัดต้นไม้ และประสานรถเครนมาช่วยในการเคลื่อนย้ายหลังคาโรงรถ ส่วนความเสียหายมีรถยนต์เสียหายจำนวน 12 คัน

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ