ข่าวล่าสุด

ดาราสมทบละครจักรๆ วงศ์ๆ แจ้งความ ถูกหลอกทำงานออนไลน์ หมดเงินก้อนสุดท้ายใช้รักษามะเร็ง

วันที่ 3 พ.ย.68 ที่ สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายประภาส สีอ่อน อายุ 60 ปี หรือตลกบ้าหมา ต๊ะติ๊งโหน่ง พา น.ส.ณิชาพรสิริ เสนลา หรือ ปู รำมะนา อายุ 50 ปี ชาวอำเภอนครหลวง นักแสดงตัวประกอบละครจักรจักรวงศ์วงศ์ และเป็นนักร้องเงาเสียง “อ้อย กระท้อน” เข้าแจ้งความหลังถูกหลอกลวงทำงานออนไลน์ จนสูญเงินกว่า 2 หมื่นบาท

น.ส.ณิชาพรสิริ กล่าวว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งช่องท้อง ระยะที่ 4 ต้องพบแพทย์บ่อย และเตรียมที่จะฉายแสง ช่วงหลังจึงไม่ค่อยมีงานแสดงทั้งละคร และร่วมคณะตลกต๊ะติ๊งโหน่งไปแสดง เดินทางไกลไม่สะดวก ทำให้ขาดรายได้ กระทั่งช่วงกลางเดือนตนเห็นโพสต์ประกาศรับคนทำงาน เป็นงานแพ็คสินค้าและทำของที่ระลึก โดยจะส่งงานมาให้ทำที่บ้าน ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ตนเห็นว่าทำงานที่บ้านได้และไม่ยากจึงติดต่อไป โดยได้พูดคุยกันทางไลน์ แค่ให้เราไปกดถูกใจสินค้า ก็โอนเงินมาให้แล้ว 50 บาท และยังให้กดถูกใจสินค้าอีกหลายครั้งซึ่งได้รับเงินเช่นกัน
จากนั้นก็มีการส่งลิงก์มาให้กรอกข้อมูลพร้อมกับตอบคำถามต่างๆ แต่ต้องโอนเงินไปด้วย ครั้งแรกโอนไป 150 ได้เงินคืนกลับมา 270 บาท ก่อนจะทำต่อโดยกรอกข้อมูลพร้อมกับโอนเงินไป 700 ก็ได้เงินคืนมา 1,100 บาท หลังจากนั้นก็ถูกดึงเข้าไลน์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2-3 คน และส่งลิงก์มาให้กรอกข้อมูล และทำแบบทดสอบตามกำหนดเวลา

โดยทุกครั้งจะต้องโอนเงินไป ถ้าเราทำผิดขั้นตอน หรือตอบคำถามผิด เงินจะไม่ได้คืน ต้องโอนเงินไปใหม่ เพื่อตอบคำถาม กรอกข้อมูล จะมีแรงกดดันมากเพราะต้องทำให้ทันเวลา ตนทำหลายครั้งรวมเงินที่โอนไปกว่า 25,000 บาท จึงเริ่มรู้สึกว่าถูกหลอก พอติดต่อขอเงินคืนก็ถูกปฎิเสธ จึงได้เข้าไปแจ้งความดังกล่าว

น.ส.ณิชาพรสิริ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจมากเพราะเงินที่เสียไปเป็นเงินที่ยืมคนในครอบครัว ยืมญาติ รวมถึงยืมหัวหน้าคณะตลกมา ส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ตนเก็บไว้ใช้ในการเดินทางไปรักษาโรคมะเร็ง อยากได้เงินคืน และไม่อยากให้กลุ่มคนร้ายไปหลอกลวงใครอีก

ด้าน นายประภาส กล่าวว่า ปูน่าสงสาร หลังๆ ไม่ค่อยมีงาน จะมีงานที่ใกล้ๆ บ้าน เพราะไม่สะดวกเดินทางเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ตนก็คอยช่วยเหลืออยู่ ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วัน ปูโทรมาขอยืมเงินบอกจะลงทุน รับงานทำกำไรข้อมือที่บ้าน จึงได้ให้เงินไป ก็ไม่คิดว่าจะโดนหลอก เพราะปูเป็นคนเก่ง ฉลาด ร้องเพลงเก่ง แสดงละครเก่ง จนปูโทรมาเล่าให้ฟัง จึงพาเข้าแจ้งความดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งสลิปการโอนเงิน หลักฐานการสนทนา บันทึกคำให้การ และตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด พร้อมประสานธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่ออายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ ยังได้ประสานศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
ตำรวจฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อเพจหรือไลน์ที่อ้างรับสมัครงานผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีเงื่อนไขให้โอนเงินก่อนทุกกรณี เพราะอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในลักษณะเดียวกันได้.

 

โดย ทีมข่าวอยุธยา

Recent Posts