เซลสาวร่ำไห้ได้รถเก๋งคืน หลังถูกขโมยไป 4 วัน คนร้ายแปลงสภาพรถ จอดซุกที่เปลี่ยว

เซลสาวร่ำไห้ได้รถเก๋งคืน หลังถูกขโมยไป 4 วัน คนร้ายแปลงสภาพรถ จอดซุกที่เปลี่ยว

จากกรณี น.ส.นภิสรา มุทราอิศ อายุ 40 ปี ชาว จ.อ่างทอง เซล และนักวิ่ง โพสต์เฟซบุ๊กตามหารถยนต์โตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ-138 อ่างทอง ถูกขโมยกลางดึกวันที่ 2 ส.ค. จากโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.พระนครศรีอยุธยา โดยคนร้ายใช้เวลาเพียง 11 นาที โจรกรรมรถหายพร้อมทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท เช่น รองเท้าวิ่งแบรนด์ดัง ชุดวิ่ง กระเป๋าสตางค์ และบัตรเติมน้ำมัน ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.นภิสรา ได้เดินทางมาดูรถของตัวเองหลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พบรถแล้วในพื้นที่ ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยคนร้ายจอดรถทิ้งไว้ในพื้นที่เปลี่ยว

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบรถอย่างละเอียด พบว่ารถถูก ถอดป้ายทะเบียน, เปลี่ยนล้อแม็กและยาง, แกะยันต์หลวงพ่อกวยที่ติดอยู่ฝั่งกระจกหลังออก ก่อนจะนำสติ๊กเกอร์พระอาทิตย์มาแปะแทน เพื่อเปลี่ยนจุดเด่นลักษณะของรถ ตนเองจำรถของตนเองได้อย่าแงแม่นยำถึงแม้จะมีการแปรเปลี่ยนสภาพ ตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งภาพมาให้ดู ยังไม่กล้าเชื่อเลยค่ะว่าใช่รถเราหรือเปล่า

เพราะเขาแปลงสภาพไปหลายจุด แต่พอมาเห็นกับตา เท่านั้นแหละ น้ำตาไหลเลย เหมือนได้บ้านคืน รถคันนี้อยู่ด้วยกันมา 7 ปี ไปเหนือไปอีสาน ขับไปขายของ ไปวิ่งมาราธอน มันคือชีวิต มันคือเพื่อน มันคือบ้าน วันที่เขาหาย เหมือนหมดทุกอย่าง

 

ส่วนทรัพย์สินในรถซึ่งเป็นรองเท้าสำรับวิ่ง และทรัพย์สินอื่นๆที่หายไป หาใหม่มาได้ ได้รถเก๋งคันนี้กลับมาใช้ดีใจมากแล้ว เดียวไปหารองเท้าวิ่งมาวิ่งได้ได้ เพราะรถเก๋งคนนี้จะพาตนไปงวิ่งกีฬาที่รักได้

จากการที่รถเก๋งถูกคนร้ายขโมยไปตนเองได้พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอให้ได้รถคืน โดยจะนำพวงมาลัยดาวเรือง 9 พวง และผลไม้ 9 อย่างไปถวาย พร้อมอธิษฐานขอให้มีปาฏิหาริย์ช่วยให้คนร้ายเอารถมาคืน หลังทราบข่าวว่าพบรถ จึงเดินทางไปดอกไม้ไปแก้บนเอาไว้ รวมถึงเดินทางไปแก้บนยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ด้วย

 

ขณะเดียวกัน ด้านความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียดทุกจุด ทั้งถ่ายภาพ เก็บลายนิ้วมือ และร่องรอยต่างๆ เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย พร้อมนำรถไปตรวจสภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะส่งมอบคืนให้เจ้าของรถ

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ