กระทรวงวัฒนธรรม ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์โบราณสถาน–พิพิธภัณฑ์ยามราตรี “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย”

กระทรวงวัฒนธรรม ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์โบราณสถาน–พิพิธภัณฑ์ยามราตรี “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย”

วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. ที่โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรี พร้อมเปิดกิจกรรม “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย”

โดยมี นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการร่วมแถลงข่าว

นางสาวซาบีดา กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลปากรเดินหน้าโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรีต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย “พลังวัฒนธรรม” และขยายเวลาเที่ยวให้ยาวขึ้น สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ร้านอาหาร และที่พัก สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ภายใต้วิสัยทัศน์ “สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน”

กรมศิลปากรได้กำหนดจัดกิจกรรมท่องเที่ยวชมโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่สำคัญ 6 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ชมแสง สี และกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมภาคค่ำ ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ใช้เวลาในพื้นที่นานขึ้น

สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมืองมรดกโลกและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จะเปิดโบราณสถาน 6 จุดให้เข้าชมยามค่ำคืน ได้แก่ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังจันทรเกษม เปิดให้ชมทุกวันศุกร์–อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 16.30–21.30 น. ต่อเนื่องถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569

กิจกรรมภายใต้ชื่อ “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” จัดขึ้นเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยใช้โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระตำหนักสิริยาลัย เป็นพื้นที่จัดงานหลัก พร้อมกระจายกิจกรรมไปยังวัดพระราม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

งานแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ วันที่ 26 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 รวม 10 วันต่อเนื่อง และช่วงวันที่ 9 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2569 ทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 16.30–21.30 น.

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ วัดไชยวัฒนาราม – ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม การละเล่นไทยโบราณ การลอยประทีป ตลาดโบราณนานาชาติ พร้อมแต่งชุดไทยถ่ายภาพท่ามกลางแสงไฟงดงาม มีพิธีสวดมนต์ข้ามปีคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2568
วัดพระราม – ชมไฟประดับโบราณสถาน แต่งชุดไทยเดินเที่ยวและถ่ายภาพ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม – “Night at the Palace” ย้อนรอย 4 ศตวรรษ กับกิจกรรมชาววังพาชม ชาววังชวนขึ้นหอ สายมูต้องมา พร้อมสาธิตศิลปวัฒนธรรม เวลา 17.00–21.00 น.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา – จัดเสวนาทางวิชาการทุกวันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 13.00–16.00 น. พร้อมกิจกรรมประกวดแมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี ปีที่ 2 วันที่ 11 มกราคม 2569 และนิทรรศการโบราณวัตถุ–ของสะสม รวมถึงนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยมสัญจรจากพิพิธภัณฑ์ผ้า ตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 เวลา 09.00–16.00 น.

นางสาวซาบีดา กล่าว เพิ่มเติมว่า กรมศิลปากรเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมสัมผัสเสน่ห์โบราณสถานยามราตรี สัมผัสพลังวัฒนธรรมไทยท่ามกลางความงดงามของประวัติศาสตร์ที่ส่องสว่างในค่ำคืนของกรุงศรีอยุธยา.

 

🔶 “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” 🔶
เทศกาลเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนที่หลายคนรอคอย แสงไฟ | สายน้ำ | ประวัติศาสตร์ | ความงดงามในยามค่ำ รวมอยู่ที่นี่… “อยุธยา” เมืองมรดกโลกของเราค่ะ 🤍
ครั้งนี้จัดใหญ่ ครอบคลุมถึง 4 จุดไฮไลต์
✨ วัดไชยวัฒนาราม
✨ วัดพระราม
✨ พระราชวังจันทรเกษม
✨ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
🔶 ช่วงที่ 1 : Soft Opening
📅 1–30 พ.ย. 2568
🕰 ทุกวันศุกร์–เสาร์–อาทิตย์
เวลา 18.30–21.00 น. (เข้าชมได้ถึง 21.30 น.)
✨ เริ่มต้นสัมผัสอยุธยาในคืนแรกของลมหนาว
🔶 ช่วงที่ 2 : Grand Opening
📅 26 ธ.ค. 2568 – 4 ม.ค. 2569
กิจกรรมวัฒนธรรมคึกคักต่อเนื่อง 10 วันเต็ม
⭐ Highlight 27 ธ.ค. 2568
พิธีเปิดยิ่งใหญ่ “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ”
ณ วัดไชยวัฒนาราม ใต้แสงไฟที่งดงามที่สุดของปี ✨
📅 9 ม.ค. – 1 ก.พ. 2569
ทุกศุกร์–เสาร์–อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เวลา 18.30–21.00 น. (เข้าชมได้ถึง 21.30 น.)
🔶 ช่วงที่ 3 : Last Call
📅 6–28 ก.พ. 2569
ชมแสงไฟโบราณสถานโค้งสุดท้ายของฤดูลมหนาว
ทุกศุกร์–เสาร์–อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เวลา 18.30–21.00 น.

 

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ