ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

หนุ่มตกงานมาไหว้พระขอพรทำบุญก่อนงัดตู้บริจาควัดพนัญเชิงวรวิหารกรรมตามทันถูกตำรวจตามจับ

จากกรณีคนร้ายเป็นชาย แต่งกายดี ผิวขาว สูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุ 30-35 ปี สวมหน้ากากอนามัย ทำทีเข้ามาไหว้พร และเสี่ยงเซียมซีในวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา พอสบโอกาสใช้ไขควงที่เตรียมมา งัดตู้บริจาคตู้ทำบุญเซียมซี หยิบธนบัตรที่อยู่ในตู้ไปเกือบหมด ใส่ในกระเป๋าเป้ที่สะพายมาและเดินออกไปอย่างใจเย็น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 31มีนาคม พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ณัฏฐ์เดชา ฐานิภัทรราพงศ์ รองผกก.สืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จับกุมตัว นายกรณ์ธาวิน งามวิไล อายุ33ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวัดตู้บริจาค วัดพนัญเชิงวรวิหาร พร้อมด้วยของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ ไขขวง และเงินสดอีกจำนวหนึ่ง ที่ได้จากการงัดตู้บริจาค มาทำการสอบสวน

จากนั้นควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่วิหารวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยก่อนที่จะทำแผน นายกรณ์ธาวิน ผู้ต้องหาได้ เข้าไปกราบขอโทษ พระเมธีวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. รองเจ้าอาวาสวัดวัดพนัญเชิงวรวิหาร ยอมรับผิดและรับกรรมที่ตนเองได้กระทำไป

วันเกิดเหตุ นายกรณ์ธาวิน ผู้ต้องหาได้เข้ามาท่องเที่ยวภายในวัด เข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปหลวงพ่อโตจำลอง ภายในวิหาร และได้เสี่ยงเซียมซี่ พอสบโอกาส ไม่มีคนอยู่ภายในวิหาร ได้ใช้ไขควงที่เตรียมมา งัดตู้บริจาค นำเงินที่อยู่ในตู้ใส่กระเป๋าสะพาย หลบหนีไป

นายกรณ์ธาวิน ให้การรับสารภาพ อ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาก่อเหตุ ตนเอง ตกงานอยู่ระหว่างหางานทำ และเคยมาท่องเที่ยวไหว้พระขอพรที่วัดพนัญเชิงวรวิหารและวัดต่างๆในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประจำ วันเกิดเหตุได้เข้ามาไหว้พระขอพร เสี่ยงเซียมซี พอเสร็จเห็นว่าปลอดคน จึงได้ตัดสินใจใช้ไขควงงัดตู้บริจาค และเอาเงินสดที่อยู่ในตู้ หลบหนี โดยว่าจ้างรถจักรยานยนต์ ไปส่ง ที่วัดเกาะแก้วที่อยู่ใกล้ เข้าไปไหว้พระ และให้อาหารปลา ก่อนที่จะเดินทางกลับไปห้องเช่า ใน ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัว ซึ่งตนเองได้งานทำแล้วด้วย



จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหามีการเตรียมการที่จะมาก่อเหตุ โดยหลังก่อเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว และพบว่าคนร้ายได้ขึ้นรถจยย.ไปยังสถานีรถไฟอยุธยา จากนั้นก็ไปลงที่สถานีรถไฟภาชี แล้วได้นั่งรถตู้โดยสารย้อนกลับมาลงยังหน้าหมู่บ้านสินทิวา ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไปทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหมู่บ้านสินทิวา เป็นจังหวะเดียวกันนายกรณ์กาวิน คนร้ายที่ก่อเหตุเดินผ่านมาพอดี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้ได้




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ