ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

น.ศ.สาววัย 19 ปี ถูกหลอก มิจฉาชีพชวนลงแอพพ์ถุงเงิน เปิดบัญชีม้า เจอหมายเรียกหลายคดี

มื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นางสาว อรณี อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปัญญา อามาตย์เสนา รอง.สว.(สอบสวน)สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมนำหลักฐานจาก สเตทเมนต์ และภาพถ่ายสาวใหญ่ซึ่งเป็นมิจฉาชีพ หลังตกเป็นเหยื่อถูกให้หลอกเปิดบัญชีม้า โดยไม่รู้ตัว ก่อนถูกหมายเรียกจากหลายโรงพักจนได้รับความเดือดร้อน

นางสาว อรณี เล่าว่าเหตุการณ์ ตนเองกำลังจะไปทำงานพาสไทม์ ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ขณะนั่งรอเวลาเพื่อที่จะเข้าทำงาน มีหญิงวัยกลางคน ทราบชื่อเพียง นา เข้ามาพุดคุยทักทาย ว่าเป็นแม่ค้าขายของ อยู่ที่ตลาดสี่แยกวัดพระญาติ ชักชวนตนพูดคุยและอ้างว่ามีโครงการคนล่ะครึ่งเฟสใหม่ และชักชวนให้ตนสมัครแอพพลิเคชั่นถุงเงิน โดยใช้โทรศัพท์ของนางนา ถ้ามีเงินเข้าจะมาแลกเงินกับตน พร้อมขอถ่ายภาพบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ ไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม จากนั้นใช้โทรศัพท์แสกนใบหน้า ตนมารู้สึกแปลกใจภายหลังว่าช่วงที่ทำธุรกรรม เปิดใช้งาน แอพพลิเคชั่นถุงเงิน ซึ่งจะต้องทำกับตู้ธนาคารกรุงไทย แต่ทำไมนางนา ไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารอื่น

ต่อมาช่วงบ่าย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรมาสอบถามตนเอง ว่า ได้ไปรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือไม่ มีคนโดนหลอกให้โอนเงินไปบัญชีธนาคารชื่อของตนเอง จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกเปิดบัญชีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้ให้ไปอายัดบัญชีที่ธนาคาร จึงรีบเดินทางไปที่ธนาคารพบว่าบัญชีถูกปิดไปแล้ว

ซึ่งต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากจังหวัดหนองคายโทรมา แจ้งว่ามีผู้เสียหายมาแจ้งความโดนหลอกให้โอนเงินชื่อบัญชีของตนเองอีก มูลค่า200,000บาท และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาอีกหลายพื้นที่ จะส่งหมายเรียกให้ตนไปสอบสวนให้ปากคำ รวมมูลค่าประมาณ 390,000 บาท ตนเองรู้สึกเครียดมาก ต้องทำให้ครอบครัวเดือดร้อนและถ้าต้องชดใช้ด้วยเงินตนเองไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาชดใช้ได้ ต้องยอมติดคุกแทน เพราะยังต้องเรียนและทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนด้วย พยายามหาหลักฐานเพื่อแสดว่าตนเองถูกหลอกไม่ได้มีเจตนาที่จะรับจ้างเปิดบัญชีม้าหรือไปหลอกใคร

ด้าน นาง ปานทิพย์ อายุ 35 ปี แม่ของ นางสาว อรณี กล่าวว่าตอนนี้ตนเองก็เครียดมาก ทางบ้านไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนไปชดใช้กับผู้เสียหายที่มีการแจ้งความ จะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำแต่ละพื้นที่ไกลมากต้องเสียค่าใช้จ่าย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้ห่วงลูกสาวมาก ห่วงสภาพจิตใจ

ได้คุยกับผู้เสียหายเบื้องต้นว่าน้องไม่รู้เห็นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ห่วงลูกสาวมาก ทุกครั้งที่ก็จะบอกให้ตำรวจมาจับหนูเลย เพื่อไม่อยากให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน ยืนยันว่าลูกตนเองบริสุทธิ์ใจไม่ได้รู้เห็นแต่กลับถูกหลอกให้เปิดบัญชีเช่นกัน




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ