แม่ไม่ต้องจับโจรขโมยรถจยย.ลูกชายเองแล้ว ตำรวจอยุธยาโชว์ฝีมือจับคนร้ายให้แล้ว
จากกรณี นางสาว จิตปะพัทธ์ สิริภากุลธาดา อายุ 51 ปี ออกมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวรถจยย.ลูกชาย ถูกคนร้ายขโมยเอาไป แจ้งความแล้วคดีเงียบหาย ออกตามหาจนเจอ คนร้ายนำรถจยย.มาใช้ นำพยานหลักฐานข้อมูล แจ้งให้ตำรวจมาจับคนร้าย ตำรวจบอกให้ตัวมาส่งตำรวจ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 29 ธันวาคม ฃที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นางสาว จิตปะพัทธ์ สิริภากุลธาดา อายุ 51 ปี มาพบกับ พนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมกับนำหลักฐานเพื่อรับรถจยย.คืนหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายได้พร้อมด้วยของกลางรถจยย.ของลูกชายที่ถูกขโมยไป
นางสาว จิตปะพัทธ์ สิริภากุลธาดา อายุ 51 ปี กล่าวว่า ดีใจที่สุดที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ วันนี้จึงเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนและมาดูหน้าผู้ต้องหา พร้อมทั้งมารับรถจักรยานยนต์คืนและได้นำช่อดอกไม้มาขอบคุณ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยาและ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย
พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจหลังจากที่ได้รับแจ้งความเรื่องรถหายทางพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนก็ออกติดตามหาเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ชื่อนาย ธนพัฒน์ หรือบิ๊ก อายุ 20 ปี ชาวอำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ที่เพิ่งพักไม่มีเลขที่ ม.4 ตงไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ขโมยไป
โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุนั้นได้เดินอยู่ภายในตลาดแกรนด์ และเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายเสียบกุญแจคาอยู่จึงขโมยขับออกไป
หลังจากนั้นก็นำมาขับขี่ใช้งานตามปกติโดยไม่ได้ดัดแปลงหรือแก้ไขรถจนมาถูกผู้เสียหายไปพบเจอว่ามาเติมน้ำมันอยู่ที่ปั๊มจึงเป็นหลักฐานจนสืบทราบและจับกุมตัวคนร้ายส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเคย ต้องโทษลักทรัพย์ ขโมยรถจยย.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากฝากเตือนประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ขณะจอดรถให้จอดอยู่ในที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือมีแสงสว่างและควรตรวจสอบรถว่ามีการล็อคกุญแจหรือลืมกุญแจคารถจักรยานยนต์ไว้หรือไม่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ไป
