ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | News

พบศพถูกทิ้งริมถนนผักไห่-สุพรรณน้ำลายปนเลือดฟูมปาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ค. ร.ต.ท.หญิง ปิยาอร คำหวาน รองสว.สอบสวน
สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตเป็นชายอยู่บริเวณริมถนนสาย 33 ผักไห่– สุพรรณบุรี หมู่ 3 ต.โคกเฒ่า อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบศพถูกทิ้งริมถนนผักไห่-สุพรรณน้ำลายปนเลือดฟูมปาก ไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวชเวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี

พบศพชายอายุประมาณ 25-30 ปี นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อโปโลสีน้ำเงินปกคอมีขลิบขาว นุ่งกางเกงยีนขายาวสีดำคาดเข็มขัดหนังสีดำ ไม่สวมรองเท้า มีน้ำลายปนเลือดสีแดงออกจากปาก เจาะหูทั้งสองข้างที่ลำตัวแขนขวามีรอยสัก แบบกราฟฟิก ที่ต้นคอด้านหลังสักยันต์เก้ายอด ที่กลางหลังมีรอยสักรูปหนุมานถือดาบและกระบองตรวจสอบในตัวไม่พบเอกสารหลักฐานว่าเป็นใคร มีเพียงเงินสดในกระเป๋ากางเกง 230 บาทและกุญแจห้องคล้องอยู่ที่หูกางเกง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย ร่องรอยการต่อสู้สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุแล้วไม่มีใครรู้จักว่าผู้ตายเป็นใคร

พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใครเนื่องจากไม่มีหลักฐานในตัว
ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสของผู้ตายว่าเป็นใครส่วนน้ำลายปนเลือดที่ออกมาจากปากของผู้ตายนั้นเบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางแพทย์ว่าเป็นเลือดที่ได้รับแรงดันออกมาจากปอด อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจสอบบุคคลก่อนว่าผู้ตายเป็นใครเพื่อจะได้สืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

ภายหลังเพจข่าวอยุธยา ได้รับการประสานจากผู้สื่อข่าว จ.สุพรรณบุรี ให้ช่วยติดตามหาญาติของผู้เสียชีวิต เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุเป็นเขตติดต่อกับจ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้นำภาพของผู้เสียชีวิตลงติดตามหาญาติและจนมี เจ้าของอู่ซ่อมรถแบ็คโฮ รายหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์ ผู้ตายคือนายสราวุธ เหล่าก่อดี อายุ 18 ปี เป็นช่างซ่อมแบ็คโฮเป็นคนนิสัยดี มาทำงานอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนและเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้ตายได้ปรึกษากับเจ้าของอู่ว่าไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีแฟนอยู่แล้ว และผู้หญิงคนดังกล่าวถูกแฟนจับได้ว่ามีความสัมพันธ์กันจึงตามราวีและทำร้ายทุบตีหญิงสาวคนดังกล่าว และเมื่อ 5 วันก่อนผู้ตายได้ลางาน แล้วเงียบไปจึงได้โทรไปตามให้มาทำงานได้รับคำตอบว่าไม่ทำงานแล้วขอลาออกตนจึงเตือนสติไปว่าอย่าให้ผู้หญิงมาทำให้เสียงาน จากนั้นผู้ตายก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว

ล่าสุดมีผู้ให้ข้อมูลกับทางทีมข่าวอยุธยาว่าพอทราบว่านายวราวุธเสียชีวิต ไม่เชื่อจึงเปิด Facebook ของผู้ตายดูพบว่าผู้ตายยังอ่อนเฟสบุคอยู่จึงได้ทักข้อความไปมีการอ่านข้อความจริงโทรผ่าน Facebook มีการกดสายทิ้ง จึงเชื่อว่าโทรศัพท์ของผู้ตายยังมีผู้เปิดใช้งานอยู่




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ