ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

ชาวบ้านแตกตื่นกลางดึก น้ำกัดเซาะถนนขาด ทะลักเข้าท่วม 3 อำเภอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2565 เกิดเหตุถนนคันคลองชลประทาน ใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด ม.7 ต.รางจระเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 5 เมตร น้ำไหลบ่าเชี่ยวแรงเข้าคลอง เจ้าเจ็ด-บางยี่หน สู่พื้นที่ท้ายน้ำ อำเภอเสนา อำเภอบางซ้าย อำเภอลาดบัวหลวง ด่านแรกโรงพยาบาลเสนา ซึ่งติดกับคลอง

โดยก่อนเกิดเหตุชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชุมชนใกล้กับที่เกิดเหตุต่างพากันขนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ข้ามถนนที่กำลังจะทรุดตัวออกมาได้ทัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเสนา เร่งตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสายไฟจากเสาไฟฟ้าเกรงเสาไฟฟ้าจะถูกน้ำกัดเซาะจนเสาไฟฟ้าล้ม โดยมี กลุ่มชาวบ้านจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำ ต.เจ้าเจ็ด ต.มารวิชัย อำเภอบางซ้าย อำเภอลาดบัวหลวง มาสังเกตการณ์ท่ามกลางความแตกตื่น

นายนพพร หล่อเลี่ยม ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.รางจระเข้ เปิดเผยว่า จุดที่ถนนขาด น้ำกัดเซาะถนนซึ่งมีท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทานที่อยู่ใต้พื้นผิวถนน จนทะลุทำให้ถนนทรุดตัวพังทลาย มวลน้ำของแม่น้ำน้อยที่ล้นตลิ่ง ท่วมอยู่ในพื้นที่ของ ต.รางจระเข้ ต.บ้านโพธิ์ ต.เสนา ของ อ.เสนา ไหลบ่า ลงสู่พื้นที่ ต.เจ้าเจ็ด ต.เจ้าเสด็จ อ.เสนา อ.บางซ้าย อ.ลาดบัวหลวง

ต่อมา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกลกรมชลประทาน ป้องกันและบรรเทา สาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นาย ประดิษฐ์ สังขจาย ส.อบจ. เขต 1 อ.เสนา ลงพื้นที่รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ด้าน นายนิวัฒน์ กล่าวว่า จุดที่เกิดถนนทรุดตัวใต้พื้นผิวถนน จะเป็นท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ของ กรมชลประทานที่เดินท่อสูบน้ำ ไว้ใต้ถนนมวลน้ำจำนวนมากจากแม่น้ำน้อยที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ได้กัดเซาะจนถนนเกิดการขาดทรุดตัว ได้ร่วมกันวางแผนกับทางชลประทาน เพื่อเร่งนำดำเนินการ ปิดกันมวลน้ำไม่ให้ไหลลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำ ซึ่งทางอำเภอเสนาประสาน ผู้นำท้องถิ่นแจ้งเตือนชาวบ้านให้เตรียมพร้อมสถานการณ์แล้ว

จากการประเมินแล้วมวลน้ำประมาณ 90 ลบ.ม./วินาที ไหลลงคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ไป ในพื้นที่ อำเภอเสนา อำเภอบางซ้าย อำเภอลาดบัวหลวง




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ