ตำรวจชี้แจงทำตามยุทธวิธี ไล่จับจยย.ท่อดัง ขี่ย้อนศรหนี ก่อนเสียหลักชนเสาไฟฟ้าดับ

ผกก.พระนครศรีอยุธยา ยัน ตร.ทำตามยุทธวิธี ไล่รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยย้อนศร ก่อนเสียหลักชนเสาไฟฟ้าดับ–พร้อมเปิดกล้องบอดี้แคมชี้แจง
จากกรณีเกิดเหตุชาย ขี่รถจักรยานยนต์ ท่อดังหลบหนี การเรียกตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ ของสภ.พระนครศรีอยุธยา แล้วเสียหลักแหกโค้งจนรถจักรยานยนต์ล้มไปชนกับ ขอบฟุตบาท จนเสียชีวิต ทางญาติติดใจกกับารปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ว่าทำเกินกว่าเกิดเหตุเรียกร้องให้มีการชี้แจ้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 1 มิ.ย.2568 พ.ต.อ อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก. สภ.พระนครศรีอยุธยา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเมื่อคืนนี้สายตรวจ รถจักรยานยนต์ 2 คนออกปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้รถจักรยานยนต์ของสายตรวจ สวมเครื่องแบบ และมีการติดกล้องที่หน้าอก หรือ บอดี้แคม แต่คนขี่ไม่ได้ติดเนื่องจากกล้องเสียอยู่ระหว่างรอตัวใหม่ มีเพียงแค่ตำรวจที่ซ้อนท้าย
ระหว่างออกตรวจมาถึง สี่แยกพระญาติ-ถนนโรจนะ พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย มาจอดตรงสี่แยก 3 คัน ก่อนที่รถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ จะหันหัวรถกลับและขี่ย้อนศรหลบหนีตำรวจสายตรวจไปทันที ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมต้องสงสัย ประกอบกับรถจักรยานยนต์ เป็นท่อเสียงดัง ตำรวจสายตรวจจึงขี่ไล่ติดตาม มีการเว้นระยะห่างและไม่ได้ประชิดตัว
โดยชายต้องสงสัยขี่รถย้อนศรหลบหนีไปเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์เข้าโค้งด้วยความเร็วจนกระทั่งเสียหลัก พุ่งชนกับทางเท้า ร่างกระเด็น ตำรวจสายตรวจที่ตามมา จึงลงไปตรวจสอบ พร้อมทั้งเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเสียชีวิต
ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตรวจทำตามหน้าที่และตามยุทธวิธี ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่เนื่องจากพฤติกรรมต้องสงสัย ซึ่งก็เป็นการทำงานของตำรวจอยู่แล้ว หากพบบุคคลต้องสงสัย จำเป็นต้องตรวจสอบ และพร้อมให้ข้อมูลกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หากติดใจในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้าง ลูกน้อง แต่ตรวจสอบแล้วทำตามยุทธวิธีทุกอย่าง ซึ่งก็มีกล้องติดหน้าอกของตำรวจสายตรวจที่ซ้อนท้าย เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัตผู้เสียชีวิต พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติดมีไว้เพื่อจำหน่ายตั้งแต่ปี 2555 2556 และ 2561 แต่ขณะเกิดเหตุในครั้งนี้ตำรวจไม่ได้มีการตรวจค้นตัว เนื่องจากต้องเร่งช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บก่อน