ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

คนร้ายงัด ทุบตู้เอทีเอ็ม ริมถนนโรจนะกลางเมืองอยุธยา ตำรวจเร่งล่าตัว

เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 31 มีนาคม พ.ต.ต.ธงชัย แก้วจรูญ สว.(สอบสวน ) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ออโต้ สาขาธุรกิจยานยนต์อยุธยา ริมถนนโรจนะ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีคนร้ายได้มางัดตู้ เอทีเอ็ม ได้รับความเสียหาย ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กกสส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พระนครศรีอยุธยา

พบตู้เอทีเอ็ม อยู่ด้านข้างของธนาคาร มีร่องรอย ถูกทุบ ถูกงัด จนหน้าจอแตก สายไฟแผงวงจร กระจายเกลื่อน ช่องรับเงินถูกงัด พังเสียหาย ที่พื้นหน้าตู้เอทีเอ็ม พบ มีดปอกผลไม้ด้ามสีแดง พบม้วนกระดาษสลิปเอทีเอ็ม ตกกระจายเกลื่อน คีย์บอร์ด นอกจากนี้ยังพบท่อนเล็กสภาพหักงอตกอยู่ใกล้กับที่เหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝง ตรวจสอบในเบื้องต้นคนร้ายไม่สามารถนำเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มไปได้

จากการสอบสวน พนักงานของธนาคารในเบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร ที่มาเข้าเวรในช่วงเช้า ได้ไปพบว่าตู้เอทีเอ็มถูกงัดถูกทุบเสียหาย จึงมาแจ้งให้พนักงานทราบ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ธนาคารจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วงเวลาที่ธนาคารทำการเท่านั้นช่วงกลางคืนจะไม่มี สาขานี้ของธนาคารให้บริการ ในเรื่องของสินเชื่อเกี่ยวกับรถยนต์ มีตู้เอทีเอ็มให้บริการกับลูกค้า มีการเติมเงินใส่ในตู้เอทีเอ็มไว้ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนกล้องวงจรปิดต้องประสานกับทางสำนักงานใหญ่และบริษัทที่ดูแลเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบภายในอาคารพาณิชย์ ร้างติดกับตู้เอทีเอ็มซึ่งจะมีคนเร่ร่อนเข้าไปพักอาศัย พบว่า มีข้าวของเครื่องใช้จำนวนมากอยู่ภายในอาคาร ส่วนคนเร่ร่อน ที่เคยมีคนอยู่ในวันนี้ไม่พบตัว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางธนาคารและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งสอบสวนพยานเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ